ใส่คีย์เวิร์ดที่ต้องการค้นหาด้านล่างเพื่อค้นหาบทความและผลิตภัณฑ์
แมวขึ้นชื่อเรื่องความรักสะอาด รักสวยรักงาม เจ้าก้อนขนเหล่านี้มักจะดูแลตัวเองอย่างดีเพื่อรักษารูปลักษณ์อันงดงามให้ไร้ที่ติอยู่ตลอดเวลา แต่ก็มีบางจุดที่แมวอาจพลาดไปหรือทำความสะอาดได้ไม่ทั่วถึง เช่น บริเวณรอบดวงตา ช่องหู และอุ้งเท้า ซึ่งทั้งหมดนี้มักจะเป็นแหล่งสะสมของฝุ่น น้ำมันตามธรรมชาติ และเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้ว การดูแลตัวเองของเจ้าเหมียวจึงอาจไม่เพียงพอ ทาสแมวต้องยื่นมือเข้าไปช่วยกันสักหน่อย แนะนำให้หมั่นสังเกตบริเวณดังกล่าวและเรียนรู้วิธีทำความสะอาดหูแมว ตาแมว และส่วนอื่น ๆ ของร่างกายพวกเค้าอย่างเหมาะสม
เป็นผลิตภัณฑ์ที่หาซื้อง่าย มีจำหน่ายตามท้องตลาด ทำความสะอาดหูแมวได้เป็นอย่างดี โดยช่วยกำจัดขี้หูและกลิ่นเหม็นที่ไม่พึงประสงค์
เป็นผลิตภัณฑ์ที่มักจะนำไปใช้ทำความสะอาดหูแมว มีวางจำหน่ายทั่วไป หาซื้อได้ง่าย ราคาไม่แพง
เป็นวิธีทำความสะอาดหูแมวที่ทั้งสะดวกและรวดเร็ว ผ้าชนิดนี้ถูกออกแบบมาเพื่อน้องแมวโดยเฉพาะ ปราศจากแอลกอฮอล์และมักจะมีสารสกัดจากว่านหางจระเข้ที่ช่วยปลอบประโลมผิวหนังรอบ ๆ ใบหู
การทำความสะอาดหูแมวที่มีสุขภาพดีเป็นเรื่องง่าย คุณสามารถทำได้ด้วยตนเองที่บ้าน โดยไม่จำเป็นต้องขอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญ ขั้นตอนแรกคือจัดเตรียมน้ำยาทำความสะอาดหูแมว ผ้ากอซหรือสำลีก้อน และผ้าเช็ดตัวให้เรียบร้อย จากนั้นจึงค่อยลงมือดูแลความสะอาดตามลำดับ
เตรียมอุปกรณ์กันครบแล้ว มาถึงวิธีทำความสะอาดหูแมวกันบ้าง เริ่มต้นด้วยหามุมที่สงบ ห่างไกลจากสิ่งรบกวน จากนั้นห่อตัวแมวด้วยผ้าเช็ดตัวก่อนจับพวกเค้ามานั่งบนตัก วิธีนี้จะช่วยให้แมวรู้สึกปลอดภัยแลและยังช่วยป้องไม่ให้คุณถูกแมวข่วนระหว่างการเช็ดทำความสะอาดด้วย
เมื่อจัดท่านั่งเข้าที่เข้าทางแล้ว ค่อย ๆ เปิดหูแมวแล้วหยดน้ำยาทำความสะอาดหูแมวลงไป ประมาณ 2 – 3 หยด แนะนำให้ถือขวดไว้เหนือช่องหูแทนการบังคับหรือล็อกหัวของแมวเอาไว้ เพราะอาจทำให้เกิดการบาดเจ็บได้ หลังจากหยดน้ำยาเรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือนวดหูแมวเบา ๆ ประมาณ 20 วินาที จากนั้นก็ใช้สำลีหรือผ้ากอซเช็ดเศษขี้หู สิ่งสกปรก และน้ำยาส่วนเกินออกไป ปิดท้ายด้วยการพูดชมเชยและให้ขนมแสนอร่อยเป็นรางวัล
หากแมวมีอาการติดเชื้อในหู สัตวแพทย์ส่วนใหญ่อาจแนะนำให้ใช้ยารักษาเพิ่มเติม หลังจากทำความสะอาดหูแมวแล้ว ให้ทายาส่วนด้านในของช่องหู แล้วก็ปล่อยให้ยาซึมเข้าสู่ผิวหนัง ทั้งนี้ควรเช็กให้แน่ใจว่าไม่ได้ทายาลึกจนเกินไป เพราะอาจทำให้เกิดการบาดเจ็บ ร้ายแรงถึงขั้นแก้วหูแตกได้เลยทีเดียว
การติดเชื้อจากแบคทีเรียหรือเชื้อราบริเวณดวงตาเป็นปัญหาที่พบได้บ่อย และจำเป็นต้องดูแลรักษาอย่างเร่งด่วน รวมถึงต้องหมั่นทำความสะอาดและล้างตาแมวเป็นประจำเพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบในระยะยาว
โรคเยื่อตาขาวอักเสบก็เป็นอีกหนึ่งปัญหาที่พบบ่อยในแมว มักเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา และไวรัส การสัมผัสกับไวรัส เช่น เชื้อไวรัสเฮอร์ปี เชื้อไวรัสแคลลิซิ และเชื้อไวรัสไรโนเทรอีไอติส (FVR) ก็นำไปสู่อาการตาอักเสบได้เช่นกัน
ปัญหาตาอาจเป็นผลมาจากความเสียหายทางกายภาพ เช่น บาดแผลจากการต่อสู้และแมลงสัตว์กัดต่อย บางครั้งก็เกิดจากสุขภาพตาที่ย่ำแย่ หากพบว่าน้องแมวมีบาดแผลรอบดวงตา ควรปรึกษาสัตวแพทย์ทันที
การติดเชื้อชนิดนี้เป็นปัญหาสุขภาพที่พบบ่อยในแมว มักทำให้แมวมีอาการผิดปกติบริเวณเยื่อบุตา
โรคเยื่อตาขาวอักเสบหรือตาแดงอาจเกิดจากการสัมผัสสารระคายเคือง เช่น ละอองเกสรดอกไม้ วัชพืช และฝุ่น ส่งผลให้แมวปวดตา เยื่อบุตาอักเสบ เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดบาดแผลที่กระจกตา และทำให้สุขภาพตาแย่ลงด้วย เพื่อป้องกันการติดเชื้อที่ดวงตา ขอแนะนำให้ทำความสะอาดตาแมวเป็นประจำและหมั่นสังเกตอาการผิดปกติต่าง ๆ อย่างใกล้ชิด
ความผิดปกติของกระจกตา เช่น กระจกตาแยกตัว ทำให้กระจกตาส่วนหนึ่งขุ่นมัว ความผิดปกติที่เกี่ยวข้องกับกระจกตาเป็นปัญหาสุขภาพที่จำเป็นต้องได้รับการดูแลจากผู้เชี่ยวชาญ
การติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจส่วนบนอาจทำให้เกิดอาการตาแฉะและน้ำตาไหลออกมาตลอดเวลาได้ แม้จะไม่ใช่ปัญหาที่อันตราย แต่ก็ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนสีรอบดวงตาได้
เป็นภาวะที่เกิดจากการอักเสบของหลอดเลือดชั้นกลาง ซึ่งอาจส่งผลกระทบไปยังม่านตา เนื้อเยื่อคอรอยด์ และเนื้อเยื่อซิลเลียรี่ ทำให้แมวปวดตาอย่างรุนแรง และอาจมีอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น กะพริบตาหรือขยี้ตาบ่อย ๆ
ต่อมน้ำตาที่อยู่รอบ ๆ ดวงตาของแมวมีหน้าที่สร้างฟิล์มน้ำตาบาง ๆ ซึ่งช่วยป้องกันไม่ให้สิ่งแปลกปลอมเข้าไปในดวงตาและรักษาความชุ่มชื้น อาการตาแห้งส่งผลต่อการผลิตต่อมน้ำตาบางส่วนหรืออาจจะทั้งหมด ส่งผลให้แมวปวดตาและเกิดอาการคัน
ปัญหาเกี่ยวกับดวงตาอาจสร้างความเจ็บปวดและไม่สบายให้กับน้องแมว แต่ส่วนใหญ่สามารถรักษาให้หายได้ง่าย ทั้งจากการดูแลด้วยตนเองที่บ้านและจากการรักษาโดยสัตวแพทย์ การรักษาโรคตาแมวแบ่งออกเป็น 2 วิธีหลัก ๆ ดังนี้
ก่อนที่จะเรียนรู้วิธีดูแลสุขภาพผิวหนัง ปัญหาสุขภาพที่พบบ่อย และวิธีรักษาโรคผิวหนังแมว คุณควรทำความเข้าใจลักษณะขนของแมวกันก่อน
สฟิงซ์เป็นแมวไร้ขนที่โด่งดัง พวกเค้ามีผิวหนังที่ยืดหยุ่น และถูกปกคลุมด้วยขนเส้นบาง ๆ
แมวบางพันธุ์ เช่น สายพันธุ์โอเรียนทัล ที่มีขนสั้น และเรียบไปตามลำตัว
จุดเด่นของแมวในตระกูลเร็กซ์คือขนที่หยิกเป็นลอน ขนของพวกเค้ามักจะหลุดร่วงน้อย
แมวขนสั้นมักจะมีขนสองชั้นปกคลุมร่างกาย โดยขนชั้นในจะนุ่มกว่าขนชั้นนอก
แมวพันธุ์เปอร์เซีย นอร์วีเจียน ฟอเรสต์ และเมนคูนขึ้นชื่อเรื่องขนยาวสวย แต่น้องแมวพันธุ์นี้มักจะขนพันกันได้ง่าย
โภชนาการเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อสุขภาพผิวหนังและเส้นขนของแมว โดยอาหารแมวส่วนใหญ่ประกอบด้วยโปรตีนและไขมันจากสัตว์ ซึ่งทั้งสองอย่างนี้มีบทบาทสำคัญต่อการเสริมสร้างสุขภาพผิวหนังที่ดี หากได้รับโปรตีนไม่เพียงพอต่อความต้องการ แมวอาจขนร่วงมากผิดปกติ เส้นขนจะแห้ง หยาบ และเปราะบาง
กรดไขมันที่มีอยู่ในอาหารแมวช่วยเสริมให้เส้นขนแข็งแรง เพิ่มความยืดหยุ่นและให้ความชุ่มชื้นกับผิวหนัง ทั้งนี้ในอาหารแมวควรมีแร่ธาตุที่จำเป็น เช่น ทองแดงและสังกะสี เพื่อป้องกันการเปลี่ยนสีของขน ปัญหาผิวแห้ง ขนร่วงเป็นหย่อม ๆ และการเกิดบาดแผลที่ผิวหนังด้วย
ขอแนะนำอาหารแมววิสกัส® ที่อุดมไปด้วยสารอาหารที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโต มีส่วนช่วยในการเสริมสร้างสุขภาพผิวหนังให้แข็งแรง และช่วยให้น้องแมวมีขนสวยเปล่งประกายสุขภาพดี
เนื่องจากแมวส่วนใหญ่ไม่ค่อยชอบน้ำและมักจะดูแลตัวเองเป็นอย่างดี เราจึงไม่จำเป็นต้องอาบน้ำให้แมวบ่อย ๆ อาจจะอาบเพียงเดือนละครั้งก็ได้ โดยแนะนำให้เลือกแชมพูสำหรับแมวโดยเฉพาะ เพื่อป้องกันอาการแพ้หรืออาการระคายเคือง ทั้งนี้การดูแลขนถือเป็นหนึ่งในวิธีรักษาโรคผิวหนังแมว เช่น การแปรงขนเป็นประจำ เพราะมันช่วยขจัดสิ่งสกปรก เส้นขนที่หลุดร่วง และเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วออกไป อีกทั้งยังช่วยกระตุ้นให้ผิวหนังผลิตน้ำมันตามธรรมชาติได้ดีขึ้นด้วย
แม้ว่าแมวจะดูแลตัวเองได้เป็นอย่างดี แต่ผู้เลี้ยงก็ยังต้องแปรงขนให้พวกเค้าเป็นประจำและอาบน้ำให้ทุกเดือน เพื่อกำจัดสิ่งสกปรก เซลล์ผิวหนังที่ตายแล้ว และขนที่หลุดร่วงออกไป
แชมพูสูตรสำหรับแมวเป็นตัวเลือกที่ดีในการรักษาโรคผิวหนังแมว แต่ถ้าคุณต้องการใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติ อาจใช้น้ำมะนาวพ่นลงบนขนของแมวเพื่อทำความสะอาดและกำจัดหมัด
คุณจะต้องมีผ้าเช็ดตัว น้ำยาทำความสะอาด และสำลีหรือผ้ากอซเนื้อนุ่ม แนะนำให้เลือกใช้น้ำยาทำความสะอาดที่ออกแบบมาเพื่อแมวโดยเฉพาะ
ไม่ควรทำ เพราะอาจเกิดการอุดตันในช่องหูหรือทำให้แก้วหูเสียหายได้ ให้ใช้วิธีเช็ดทำความสะอาดเป็นประจำแทน
หากเจ้าเหมียวของคุณมีสุขภาพตาที่ดี คุณอาจไม่จำเป็นต้องใช้ผลิตภัณฑ์ยาชนิดต่าง ๆ ในการดูแลรักษาความสะอาด เพียงแค่ใช้น้ำสะอาดและยาหยอดตาที่มีจำหน่ายทั่วไปก็เพียงพอแล้ว
การดูแลทำความสะอาดดวงตาลูกแมวอย่างเหมาะสม ช่วยบรรเทาอาการไม่สบายและป้องกันปัญหาสุขภาพในระยะยาวได้ แต่อาจต้องปรับเปลี่ยนวิธีไปตามสภาพดวงตาและปัญหาที่มี คุณสามารถปรึกษาสัตวแพทย์เพื่อขอทางเลือกในการดูแลรักษาเพิ่มเติมได้